ซึ่งโดยปกติ จะมีการตรวจเช็คความพร้อมของรถก่อนปฎิบัติงาน
โดยมาถึงขั้นตอนที่จะต้องขับรถออกปฎิบัติงาน
ตรวจเช็คก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์
ควรเริ่มต้นจาก บิดสวิตช์กุญแจไปในตำแหน่ง ON เพื่อตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัด
อันดับแรกควรสังเกตุ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ว่าเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่
ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนต่างๆที่แสดงบนหน้าปัด
สัญญาณไฟเตือนตรวจสอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นมาเมื่อสวิตช์กุญแจบิดไปที่ ตำแหน่ง ON และจะดับ หลังจากผ่านไปประมาณ 5 วินาที หรือหลังจากเครื่องยนต์ทำงาน ถ้าไฟเตือนนี้ติดขึ้นมา ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน แสดงว่าเตือน ให้ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบควบคุมเครื่องยนต์ |
|
สัญญาไฟเตือนช่วงเกียร์ต่ำ สัญญาไฟเตือนนี้จะติดขึ้นเมื่อคันเกียร์อยู่ในช่วงเกียร์ต่ำ เพราะโดยปกติ ควรออกรถด้วยเกียร์ 1 ทุกครั้ง คับเกียร์จึงควรอยู่ในช่วงเกียร์ต่ำ |
|
สัญญาณไฟเตือนเบรกมือ สัญญาณไฟเตือนนี้จะติดขึ้นเมื่อดึงเบรกมือ ในความปลอดภัยทุกครั้งก่อนทำการสตาร์ตเครื่องยนต์ ควรดึงเบรกมือขึ้น |
|
สัญญาณไฟเตือนไฟชาร์จ ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นมาเมื่อสวิตช์กุญแจบิดไปที่ ตำแหน่ง ON และจะดับ หลังจากเครื่องยนต์ทำงาน ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นมาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟชาร์จ |
|
สัญญาณไฟเตือนความดันน้ำมันเครื่อง ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นมาเมื่อสวิตช์กุญแจบิดไปที่ ตำแหน่ง ON และจะดับ หลังจากเครื่องยนต์ทำงาน ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ไฟเตือนนี้ติดขึ้นมาถ้าความดันน้ำมันเครื่อง ที่หล่อลื่นส่วนประกอบเครื่องยนต์นั้นผิดปกติด (ควรตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง) |
|
สัญญาณไฟเตือนลมเสริมต่ำ (ถ้ามี) ไฟเตือนนี้ติดขึ้นและมีเสียงเตือน เมื่อความดันในท่อเสริมลดต่ำกว่าระดับ ขีดต่ำสุด ถ้าไฟเตือนนี้ติดขึ้นในขณะขับรถ ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัย ตรวจสอบท่อเสริมอาจจะเกิดการรั่วของระบบลม ถ้าไม่พบทดสอบเดินเครื่อง ในรอบเดินเบาเพื่อเพิ่มแรงดันลม ถ้าลมขึ้นช้าผิดปกติ ให้รีบแจ้งหัวหน้างาน |
|
สัญญาณไฟเตือนเข็มขัดนิรภัย ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นมาเมื่อคนขับไม่ได้สวมเข็มขัดนิรภัย ในขณะที่สวิตช์กุญแจ อยู่ในตำแหน่ง ON |
ก่อนจะทำการสตาร์ตเครื่องยนต์ ควรปิดอุปกรณ์เสริมต่างๆที่ใช้กระแสไฟฟ้า เช่น พัดลม วิทยุ เพื่อป้องกันการเสื่อมของแบตเตอรี่
และทำแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น
และจะต้องแน่ใจว่า เบรกมือดึงขึ้นจนสุด คันเกียร์ อยู่ในตำแหน่ง เกียร์ว่าง หรือ N และเหยียบคลัตช์ให้สุด
เริ่มทำการสตาร์ตเครื่องยนต์
โดยบิดสวิตช์กุญแจ ไปในตำแหน่ง START เพื่อติดเครื่องยนต์ จากนั้นค่อยล่ะเท้าออกจากแป้นเหยียบคลัตช์
สังเกตุเกจวัดความดันลม และ ไฟเตือนความดันลม ถ้าสัญญาณไฟเตือนความดันลม ยังไม่ดับลงไม่ควรที่ จะออกรถ เพราะระบบเบรก และ คลัตช์อาจจะยังใช้ ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ |
ถ้าหากต้องการเร่งเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มแรงดันลม
ควรเร่งเครื่องยนต์ให้อยู่ใน พื้นที่สีเขียว : แสดงถึงช่วงกับการขับประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
พื้นที่สีแดง : แสดงถึงรอบเครื่องยนต์ที่อันตรายที่เกินกว่าระดับที่ได้รับอนุญาต
อย่าลืมดึงมือเบรกมือลง
และควรคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนะครับ